เจ้าพายุ 1 12 61
ทักษะด้านเทคนิค (Technical Skills) ความสามารถด้านการทำงาน มีความรู้ความเข้าใจในงาน จัดเป็นความสามารถด้านปฏิบัติงานเฉพาะอย่างที่ผู้นำในหน่วยงานจะต้องรู้ แม้จะไม่ได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ทักษะหรือความสามารถในด้านนี้หาได้ด้วยการศึกษาอบรม การฝึกงาน หรือการเรียนรู้จากประสบการณ์โดยตรงของตนเอง จากความรู้เกี่ยวกับทักษะการบริหาร ผู้บริหารสามารถที่จะนำความรู้ทางด้านทักษะในการบริหาร มาบริหารงานทางการศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้จัดการ พนักงาน ผู้ประสานงาน หรือแม้แต่เป็นหัวหน้าครอบครัวก็ตาม ทักษะความเป็นผู้นำของคุณนั้นจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ซึ่ง 5 ทักษะต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณเป็นผู้นำที่ดีขึ้น และจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ของคุณกับผู้อื่น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับคนในทีมหรือคนในครอบครัวของคุณได้อย่างดี 1. รู้จักตัวเอง การติดต่อสื่อสารที่ดีควรเริ่มต้นจากการรู้จักตนเองก่อน เมื่อใดก็ตามที่คุณติดต่อสื่อสารกับคนอื่น สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องรู้จักและสามารถจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองให้ได้ก่อน คุณไม่ควรเผยอารมณ์แย่ๆ ของคุณให้คนอื่นได้เห็น เพราะพวกเขาเหล่านั้นอาจจะตัดสินคุณได้ว่าคุณอาจเป็นคนลังเลและไม่ค่อยมีความมั่นใจ และสิ่งที่สำคัญที่ควรตระหนักไว้ก็คือ ถ้าคุณหวังอยากจะให้คนอื่นแสดงท่าทีที่ดีต่อคุณอย่างไร คุณก็ควรแสดงท่าทีที่ดีต่อเขาแบบนั้นก่อน 2. รู้จักและเข้าใจผู้ฟัง การสื่อสารที่ดีที่สุดมักเกิดขึ้นจากการที่เรารู้จักและเข้าใจผู้ฟัง รู้ว่าวิธีไหนที่จะทำให้ผู้ฟังสนใจในสิ่งที่เราพูด รู้ว่าผู้ฟังเขาสนใจอะไร รวมไปถึงการดูแลเอาใจใส่และการสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ฟังด้วย ทักษะนี้จะทำให้คุณสามารถซื้อใจพวกเขาได้อยู่หมัด!
ความชัดเจน (Clarity) ผู้นำควรสื่อสารอย่างเฉพาะเจาะจง และตรงไปตรงมา กำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการของโครงการให้ชัดเจน หรือการมีความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ รวมไปถึงส่งที่คุณคาดหวังเมื่อสิ้นสุดโปรเจคนั้น หากไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ผู้นำอาจจะลองทำให้สิ่งที่คุณสื่อสารเข้าใจง่ายขึ้น หรืออาจจะถามว่าต้องการความชัดเจนมากขึ้นหรือไม่ หรือคุณจะสามารถแสดงความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้อย่างไร ยิ่งคุณชัดเจนมากเท่าไหร่ความสับสนก็จะยิ่งน้อยลง พนักงานจะรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ และรู้สึกมีส่วนร่วมในกระบวนการการทำงานมากขึ้น 5. ความสามารถในการถามคำถามแบบเปิด (Ability to Ask Open-Ended Questions) หากผู้นำต้องการเข้าใจแรงจูงใจ ความคิด เป้าหมายของพนักงาน ลองฝึกการถามคำถามแบบเปิด ตัวอย่างเช่น "ช่วยเล่าเรื่องนั้นให้ฟังเพิ่มเติมได้ไหม" "ช่วยอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังสื่อให้ฉันฟังเพิ่มเติมได้ไหม" การถามคำถามข้างต้น จะทำให้ได้รับคำตอบที่ละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น อีกทั้งจะช่วยทำให้ชัดเจนมากขึ้นว่าคนในทีมต้องการให้คุณช่วยส่งเสริมพวกเขาได้อย่างไร 6. การมีความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) การที่ผู้นำมีความเห็นอกเห็นใจ หรือเอาใจใส่พนักงานนั้นได้รับการจัดอันดับให้เป็นทักษะสำคัญอันดับต้นๆ ที่ผู้นำควรมี ยิ่งผู้นำสามารถรับรู้และเข้าใจความรู้สึกและประสบการณ์ของพนักงานได้ดีเท่าไหร่ พนักงานก็จะรู้สึกว่าพวกเขามีคุณค่าต่อองค์กรมากขึ้นเท่านั้น หากผู้นำต้องการปรับปรุงการสื่อสาร และสร้างวัฒนธรรมที่เข้มแข็งขึ้น และมีประสิทธิผลมากขึ้น ให้ลองฝึกการแสดงความเห็นอกเห็นใจ 7.
มีนาคม 25, 2563 การพัฒนาภาวะผู้นำ ภาวะวิกฤติสามารถเกิดได้อย่างไม่คาดฝัน อย่างการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 ที่กำลังเป็นวิกฤติของหลายองค์กรในขณะนี้ ผู้นำจึงเปรียบเสมือนหัวเรือสำคัญในการกำหนดทิศทางการตัดสินใจต่างๆ เพื่อประคับประคององค์กรให้ผ่านพ้นวิกฤติ และนี่คือ 5 ทักษะที่ Adecco คัดเลือกมาว่าเป็น 5 ทักษะสำคัญที่สำคัญที่สุดที่ผู้นำต้องมีในภาวะวิกฤติ 1.
1. สื่อสารได้อย่างชัดเจน การทำงานเป็นทีมจำเป็นต้องมีทักษะในการสื่อสารที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะผู้นำแล้วนั้น ยิ่งต้องมีความสามารถในการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน ไม่กลับไปกลับมา เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจตรงกัน 2. รักในงานที่ทำ มีความกระตือรือร้น ตั้งใจในงานที่ทำ ถึงแม้อาจมีส่วนที่ไม่ถนัด แต่ก็พยายามพัฒนาตนเอง เพื่อให้สามารถนำคนในทีมให้มีส่วนร่วมในงานที่ทำได้ 3. ไม่ได้สนใจชื่อเสียงเกียรติยศ ไม่ได้คาดหวังให้ตัวเองจะต้องเป็นที่รักที่ชื่นชมของทุกคนเสมอไป แต่ยอมรับคำวิจารณ์เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขตัวเองต่อไปในอนาคต 4. เปิดใจรับสิ่งใหม่ สิ่งสำคัญในการทำงานเป็นทีม คือ การรับฟังผู้อื่น ยิ่งเป็นผู้นำยิ่งต้องมีความยืดหยุ่น พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง ยอมรับความเห็นต่าง เพื่อนำความเห็นจากหลายๆ ฝ่ายมาปรับปรุงแก้ไของค์กรให้ดียิ่งขึ้น 5. ตั้งใจทำเพื่อคนในองค์กร ผู้นำที่ดีจะต้องนึกถึงคุณภาพชีวิตคนในองค์กรเป็นหลัก โดยจัดหาสวัสดิการที่ดีเพื่อจัดสรรให้คนในองค์กรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด 6. สร้างกำลังใจ ทำให้คนในทีมมีกำลังใจในการทำงาน สนับสนุนการพัฒนาความรู้ความสามารถของคนในทีมให้ดียิ่งขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกคนในทีม 7.
สถาบันเพิ่มทักษะผู้นำศตวรรษที่ 21 เน้นพัฒนาบุคลากรภายในประเทศไทยให้มีความรู้ความสามารถมีทักษะความเป็นผู้นำก้าวไกลระดับโลก และทุกหลักสูตรมีใบรับรองวุฒิให้หลังเรียนจบครบหลักสูตร บริหาร โดยทีมงานผู้มากประสบการณ์ นำโดย รศ. ดร. ทค. ประเชิญ ตรีเนตร์ อาจารย์มหาวิทยาลัยและทีมผู้บริหารยุคสมัยใหม่ วิทยากรประจำ ศ. สมคิด ศรีสิงห์, รศ. กมล เข็มนาจิตร์, ดร. สรรเสริญ คำภูแก้ว, ดร. วารุณี เลิศไพบูลย์, ดร. ภัสนันท์ รัดกลาง, ว่าที่ รต. สุนิมิต ชุ่มพงษ์, ร. ต. สมชัย รุ่งโรจน์นิรันดร์, อาจารย์สหรัฐ ตรีเนตร์, โค้ชสหภพ ตรีเนตร์ เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้แหละที่จะช่วยรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างคุณและผู้ฟังให้ดำเนินไปในระยะยาวได้ 3. พูดให้ตรงประเด็น ชัดเจน และเจาะจง การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจนนั้นสามารกระตุ้นให้ผู้ฟังรู้สึกคล้อยตาม มีความเข้าใจ และให้ความร่วมมือในสิ่งที่คุณกำลังขอได้ง่ายขึ้น เพราะถ้าหากคุณได้อธิบายสิ่งต่างๆไว้ชัดเจนและไม่คลุมเครือแล้ว ก็นับเป็นสิ่งที่ดีกว่าการทิ้งให้ผู้ฟังรู้สึกสงสัยหรือเข้าใจผิดไปได้ และเมื่อใดก็ตามที่มีใครสักคนขอความคิดเห็นจากคุณ ควรเน้นการให้คำแนะนำด้วยวิธีง่ายๆ และสามารถนำไปใช้ได้จริง คุณควรจะให้คำแนะนำกับผู้อื่นอย่างเป็นมิตรและเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้ตอบคำถามกับคุณด้วย 4.
Collaboration - ทักษะการสร้างความร่วมมือกัน ความสามัคคีและการร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาจะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายได้ การสร้างความร่วมมือกันจึงเป็นอีกหนึ่งทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้นำในภาวะวิกฤติ ผู้นำที่ดีอาจไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่าง แต่ต้องรู้จักใช้คนให้เป็น ผลักดันคนที่มีความสามารถขึ้นมาทำงาน และสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้น ผู้นำในภาวะวิกฤติต้องวางบทบาทตัวเองในฐานะคนที่คอยสนับสนุน ให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา พร้อมกับแสวงหาความร่วมมือจากภายนอก เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่ติดขัดของทีมงาน เพราะการที่ทีมงานทำงานได้สำเร็จ ก็คือความสำเร็จของผู้นำ และขององค์กรด้วย 3. Critical Thinking and Decision-Making - ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการตัดสินใจ การคิดเชิงวิพากษ์ หมายถึง กระบวนการคิดวิเคราะห์แยกแยะอย่างเป็นระบบโดยรวบรวมข้อมูลและประเมินสถานการณ์ ก่อนจะตัดสินใจบนหลักการและเหตุผล โดยไม่เอาความรู้สึก ความเชื่อ หรือความคิดเห็นส่วนตัว มาเกี่ยวข้อง ทักษะนี้มีความจำเป็นอย่างมากในภาวะวิกฤติ เพราะทุกการการตัดสินใจย่อมมีผลกระทบตามมา การตัดสินใจที่ถูกต้องและเด็ดขาดของผู้นำจะช่วยพาองค์กรให้ผ่านภาวะวิกฤติไปได้ 4. Cognitive Flexibility - ทักษะความคิดที่ยืดหยุ่น ในภาวะวิกฤติบางครั้งผู้นำอาจต้องหาแนวทางหรือคิดค้นวิธีใหม่ในการแก้ปัญหา ผู้นำที่มีความคิดที่ยืดหยุ่นจะสามารถพิจารณาปัญหา รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มองหาวิธีแก้ในมุมที่หลากหลาย และสามารถคิดนอกกรอบ ไม่ยึดติดกับวิธีหรือกฎเกณฑ์เดิมๆ จึงช่วยให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือวิธีใหม่ๆ มาใช้ในการแก้ปัญหา มีแผนการที่ยืดหยุ่นทั้งแผนหลักและแผนสำรองเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่คาดเดาได้ยาก 5.
ลองดูในวีดีโอช่วงนาทีที่ 16 บทสรุปคือ ผู้นำมีหน้าที่สร้างบรรยากาศ ส่วนตัวคุณธนา เธียรอัจฉริยะสรุปสิ่งที่ผู้นำ (leadership) จำเป็นต้องมี 4 อย่าง Humble — รู้(สึก)ว่าตัวเองไม่รู้ มีความสามารถที่จะเรียนรู้ มีความตัวเล็ก Empathy — เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจคน ไปฟัง ไปเดิน และทำความเข้าใจว่าเขาคิดอะไร Sacrifice — ผู้นำทุกคน"ต้อง"พร้อมเสียสละ กินคนสุดท้าย เหนื่อยให้เขาเห็น คุณธนาบอกครับว่า ถ้าไม่พร้อมเสียสละก็อย่ามาเป็นหัวหน้า Encourage — ความกล้าหาญ มีคำพูดจากตัวละคร Hopper จากเรื่อง A Bug's Life ครับว่า "First rule of Leadership: everything is your fault. " ผิดมากน้อยเราก็ผิดร่วมกับลูกน้อง "Leadership is not a rank or a position" นี่เป็นสกิลที่ทุกคนมีได้ครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้า เป็นคนที่ทำงานด้วย คนข้าง ๆ เราที่เราสามารถสร้างแรงบรรดาลใจ (inspire) ทำให้เขา Dream more, Learn more, Do more เราก็เป็น Leader ดังนั้น.. เริ่มที่ตัวเองก่อนครับ "Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. " — Leo Tolstoy "เพราะทุกคนอยากเปลี่ยนโลก แต่ไม่มีใครอยากเปลี่ยนตัวเอง" ขอบคุณครับ อยากชวนทุกคนที่อ่านถึงตรงนี้เข้าไปฟังคุณธนาเล่าเรื่องครับ มีหลายเรื่องที่น่าสนใจโดยเฉพาะเรื่องราวหัวหน้าของเขาคุณซิกเว่ อดีต CEO ผู้กอบกู้ DTAC