เจ้าพายุ 1 12 61
ช่างตัดเย็บ ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ถือเป็นงานประจำของคุณแม่บ้านที่สามารถรับงานมาทำที่บ้านได้ แล้วยังสามารถรับลูกค้าได้ด้วย สำหรับใครที่มีฝีมือกับงานด้านนี้ บางครั้งก็จะมีลูกค้าประจำมาใช้บริการที่บ้านบ่อยๆ งานนี้อาจต้องใช้เวลาเสียหน่อยเพราะเป็นงานฝีมือ แต่เมื่อทำชิ้นงานเสร็จแล้ว ก็ได้รับเงินทันทีเหมือนกัน 5. ล้างรถเดลิเวอรี่ ธุรกิจนี้เริ่มมีในเมืองไทยมาสักระยะแล้ว แต่ยังไม่ได้กระจายแพร่หลายไปยังคนทั่วไป ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่คุ้นเคยหรือรู้จักกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีบริษัทแห่งหนึ่งได้ใช้โอกาสนี้ทำธุรกิจและได้รับการตอบรับดีเสียด้วย แต่ในส่วนของผู้มีทุนน้อยก็อาจให้บริการตามหมู่บ้าน ที่อยู่อาศัยในย่านที่ตนอาศัยไปก่อน ล้างเสร็จแล้วก็ได้รับเงินค่าจ้างอีกเช่นกัน 6. บริการขนของย้ายบ้าน ธุรกิจนี้เหมาะกับผู้ที่มีรถยนต์หรือรถขนของเป็นของตัวเอง เป็นธุรกิจที่มานาน แล้วแต่กลุ่มของลูกค้า คนที่มีทุนน้อยอาจจะติดป้ายรับขนของย้ายบ้าน หรือลงประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้ ในเรื่องของผลตอบแทน บางรายอาจคิดเป็นจำนวนเที่ยว จำนวนสิ่งของที่เคลื่อนย้าย หรือบางรายก็อาจจะเหมากันไป ตามแต่จะเจรจากับเจ้าของบ้าน 7.
เทคโนโลยีสมัยนี้เอื้ออำนวยให้แต่ละอาชีพทำงานได้อย่างสะดวกสบายแม้ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ลองมาดูกันสนุกๆ ว่าในต่างประเทศนั้นมีอาชีพไหนบ้างที่สามารถทำงานจากบ้านได้แถมยังมีค่าตอบแทนสูง ช่วยพิสูจน์ว่างานสมัยนี้ไม่ต้องเข้าออฟฟิศก็ทำเงินได้ 1) แพทย์และรังสีแพทย์ รายได้ต่อปีเฉลี่ย: $186, 000 (ประมาณ 5. 9 ล้านบาท) สามารถโหลดไฟล์ของผู้ป่วยและสามารถที่จะวินิจฉัยโรคด้วยการดูไฟล์จากทางบ้าน รวมทั้งยังสามารถติดต่อคนไข้ได้ทางโทรศัพท์ 2) ผู้จัดการฝ่ายการเงิน รายได้ต่อปีเฉลี่ย: $99, 000 (ประมาณ 3. 1 ล้านบาท) สามารถติดตั้งโปรแกรมที่ใช้ได้ที่บ้าน และอาจจะมีประชุมออนไลน์ได้อีกด้วย 3) วิศวกรซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ รายได้ต่อปีเฉลี่ย: $85, 000 (ประมาณ 2. 7 ล้านบาท) อุปกรณ์ที่สำคัญของเหล่าวิศวกรซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์คือคอมพิวเตอร์ ถ้าเขามีแล้ว เขาสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ 4) พยาบาลที่ขึ้นทะเบียน รายได้ต่อปีเฉลี่ย: $62, 000 (ประมาณ 2 ล้านบาท) พยาบาลที่ขึ้นทะเบียนแล้วไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาลก็ได้ สามารถให้คำแนะนำเรื่องการปฎิบัติและการใช้ยาได้จากทางบ้าน 5) นักวิจัยการตลาด รายได้ต่อปีเฉลี่ย: $61, 000 (ประมาณ 2 ล้านบาท) นักวิจัยไม่จำเป็นที่จะต้องไปทำงานที่ออฟฟิศ เพราะสามารถหาข้อมูลทางออนไลน์ได้ และสามารถเขียนรายงานจากที่บ้านได้เช่นกัน 6) ครูมัธยมศึกษาตอนปลาย รายได้ต่อปีเฉลี่ย: $59, 000 (ประมาณ 1.
อันนี้ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะว่าจะรับได้หรือไม่หากผู้เช่ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านด้วย ทั้งนี้อาจมีปัญหาในเรื่องความเสียหายตามมา ยิ่งหากเป็นสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่อาจจะทำลายข้าวของภายในบ้านหรือสร้างกลิ่นอับและสิ่งสกปรกภายในบ้านได้ 8. สามารถหานายจ้างหรือเจ้าของบ้านคนเก่ามาอ้างอิงได้หรือไม่? หากผู้เช่าลังเลในการหาคนมาอ้างอิงแสดงว่ากำลังมีเรื่องปิดบังบางอย่างหรือให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง การได้อ้างอิงจากนายจ้างจะทำให้รู้ว่าผู้เช่าทำงานที่นี่จริงหรือไม่ และมีตำแหน่งการงานที่มั่นคงหรือไม่ แต่ที่สำคัญคือการได้อ้างอิงจากเจ้าของบ้านคนเก่า จะทำให้รู้ประวัติการเช่าของผู้เช่ารายนี้ว่าดีหรือไม่ มีการจ่ายค่าเช่าตรงเวลาหรือไม่ และปัญหาจากการเช่าอื่น ๆ 9. เคยมีปัญหากับเจ้าของเก่าหรือไม่? แม้จะเป็นการถามที่ตรงเกินไปและน้อยคนนักที่จะตอบตามความเป็นจริง แต่ก็เป็นคำถามที่ควรถามเพื่อจะได้ดูปฏิกิริยาเวลาตอบว่า ตอบตามความจริงหรือดูลังเลเวลาตอบ 10. มีข้อสงสัยอื่น ๆ อีกหรือไม่? เป็นการเปิดประเด็นให้ผู้เช่าซักถามข้อสงสัยอื่น ๆ เกี่ยวกับการเช่าบ้านว่ามีกฎอื่น ๆ ที่ต้องรู้อีกหรือไม่ เพื่อให้เข้าใจตรงกันถึงกฎการเช่า จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง ขอขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทำสวนดอกไม้ แบ่งบางส่วนภายในบ้านเอาไว้เพื่อทำสวนดอกไม้ สู่การผลิตดอกไม้เพื่อจำหน่าย สามารถจำหน่ายให้กับโรงงานผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สบู่ หรือจำหน่ายให้กับธุรกิจอีเวนต์รับจัดงานเพื่อนำดอกไม้ไปจัดงานต่างๆ ก็ได้อีกเช่นกัน การแบ่งส่วนปลูกในบ้านสำหรับปลูกดอกไม้ สามารถสร้างรายได้หลายทาง เพราะนอกจากจะขายดอกไม้ให้โรงงานผลิตที่สร้างสินค้าใช้ดอกไม้เป็นส่วนผสม และขายให้ธุรกิจจัดอีเวนต์แล้ว ยังสามารถขายให้แม่ค้านำไปขายในตลาดได้ด้วย ถือเป็นการสร้างสรรค์วัตถุดิบเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับการสร้างรายได้ในบ้านของตัวเอง เหมาะมากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการหาเวลาว่างดูแลครอบครัวไปด้วยและทำอาชีพไปพร้อมๆ กัน 4. รับจัดกระเช้าของขวัญ กระเช้าของขวัญยังคงเป็นสิ่งที่ผู้คนนิยมใช้บริการ เพราะไม่สามารถจัดเองได้ แต่คงจะดีถ้าหากคุณแม่บ้านไหนต้องการงานทำที่บ้านและสามารถเลี้ยงลูกไปด้วยได้ อาจเรียนรู้วิธีการจัดกระเช้าเอาไว้เป็นความรู้ความสามารถเฉพาะตัว และเปิดรับจัดกระเช้าเป็นบริการเพื่อสร้างรายได้ ก็จะช่วยให้มีอาชีพได้อย่างง่ายดาย สามารถทำเงินได้ง่ายโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล แนะนำสำหรับผู้สนใจ ลองประกาศตัวว่ารับบริการจัดกระเช้า แล้วมีตัวอย่างกระเช้าที่จัดสำเร็จแล้ว เพื่อทำการตลาดอาจใช้ช่องทางออนไลน์ หรือใบปลิวแปะตามสถานที่ต่างๆ ภายในหมู่บ้านของตัวเองก็ได้ 5.
เชื่อว่าหลายคน กลัวที่จะเริ่มทำ ธุรกิจ ของตัวเอง แต่คุณรู้หรือไม่ว่านัก ธุรกิจ มากมาย ก็เริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง จากความชำนาญ ความชอบ ประเด็นสำคัญคือคุณต้องกล้าที่จะเสี่ยง ไม่ท้อถอย Sanook Money จึงรวบรวม 7 ไอเดียธุรกิจ ทำงานที่บ้าน มาเป็นแนวทาง สำหรับใครที่ไม่ได้ทำงาน หรือกำลังเบื่องานประจำ 1. ขายของบน eBay อีกงานสร้างรายได้ ซึ่งเราแทบไม่ต้องใช้ประสบการณ์มากมายในการหาเงิน เพียงแค่มีกลยุทธ์นักขายเท่านั้น เช่น การถ่ายรูปสินค้า การเขียนคำโฆษณา และเลือกสินค้าที่จะมาขายให้เหมาะสม สินค้าที่จะนำมาขายได้ ก็มีอยู่รอบตัวเรา เช่นเสื้อผ้ามือสอง รองเท้า หรือจะเป็นเครื่องใช้ภายในบ้าน ลองไปหาหนังสือเกี่ยวกับการขายของผ่าน eBay มาสักเล่ม เพื่อที่จะได้รู้กลเม็ดต่างๆ รู้ว่าคนซื้อชอบแบบไหน เราจะได้หาสินค้า เพื่อนำมาขายบนโลกออนไลน์ได้ง่ายขึ้น 2. ขายของออนไลน์ อีกธุรกิจสุดฮิต สร้างรายได้ไม่น้อย เรามักจะเห็นการขายของออนไลน์ ทั้งเสื้อผ้า นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง สารพัดอย่าง ในโลกออนไลน์ ที่คุ้นตากันดีผ่าน Facebook Fanpage การเริ่มต้นอาจจะยากสักหน่อย เพราะกว่าที่ร้านของคุณจะเริ่มโด่งดัง ถือเป็นช่วงที่ยากที่สุด และจะค่อยๆ มีลูกค้าขาประจำ สิ่งสำคัญคือ คุณต้องทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าของคุณดีจริง จ่ายเงินแล้วได้รับของจริง ข้อดีของการขายของออนไลน์คือ มีงานประจำแล้วก็ขายของเพิ่มรายได้ไปด้วยก็ได้ 3.
Skip to content เมื่อคุณพยายามที่จะดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ กุญแจสู่ความสำเร็จนั้น อาจจะแบ่งได้เป็น 2ประการคือ 1. การเรียนรู้ (หรือแม้แต่การเลียนแบบ) และ 2. การทดลองด้วยตัวเอง ทั้ง 2 อย่างถือเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรจะต้องรู้ว่าจะเริ่มต้นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้อย่างไรด้วยการใช้ประสบการณ์ของคนอื่น และการหาความรู้เพื่อสร้างแนวทางของตัวเอง วิธีการเริ่มต้นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากที่บ้าน เมื่อเริ่มต้นธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องถามตัวเองด้วยการใช้คำถามบางคำถามสำหรับถามตัวเองนั่นคือ – คุณต้องการทำอะไร? – ทำไมคุณถึงทำธุรกิจนี้? คุณต้องการที่จะตอบสนองความต้องการอะไร? (กลุ่มเป้าหมาย) – เวลาและเงินที่คุณเต็มใจที่จะลงทุนไปในธุรกิจนี้? – รูปแบบธุรกิจ ของคุณได้รับการพิสูจน์แล้วหรือไม่? หรือเป็นแนวทางแบบใหม่ที่คิดด้วยตัวเองหรือมาจากการปรับปรุงแนวทางของคนอื่นหรือไม่?
ที่ปรึกษาสำหรับคู่แต่งงาน คนที่มีครอบครัวมักมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องการแต่งงาน การใช้ชีวิตคู่ จึงเหมาะสำหรับการให้บริการด้านคำปรึกษาเกี่ยวกับคู่แต่งงาน สำหรับคนที่กำลังมีแพลนแต่งงาน โดยเฉพาะการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงาน เช่น การจัดหาสถานที่ในราคาที่คุ้มค่า การจัดหานักดนตรีมาเล่นในงาน การจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อตกแต่งสถานที่ จัดหาแหล่งขายดอกไม้สด จัดหาแหล่งขายลูกโป่ง จัดหาของชำร่วย เป็นต้น เชื่อว่าคู่แต่งงานที่ไม่ต้องการจ้างออร์กาไนซ์แบบสำเร็จรูป จะต้องหันมาใช้บริการในรูปแบบนี้อย่างแน่นอน ถือเป็นการสร้างอาชีพที่เหมาะสมกับพ่อบ้านแม่บ้านกำลังดี 10.
ธุรกิจรับเลี้ยงเด็ก อาจจะเป็นงานที่ยุ่งยากสักหน่อย แต่ถ้าใจรักเด็ก มีจิตใจโอบอ้อมอารี ในอนาคตคุณอาจจะเป็นเจ้าของโรงเรียนเนอร์สเซอรี่ชื่อดังก็ได้ และแน่นอนว่าต้องมีเวลาที่เจ้าตัวเล็กงีบหลับกลางวัน ช่วงเวลาที่ว่างนั้น คุณอาจจะทำงานอื่นเสริม เช่น เขียนคอลัมน์ ทำงานฝีมือเพื่อส่งขายก็ได้เหมือนกัน 7. ธุรกิจเบเกอรี่ ธุรกิจนี้อาจจะเป็นอีกธุรกิจที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่รู้หรือไม่ว่าคุณก็ทำจากที่บ้านได้ เริ่มแรกอาจให้วิธีสั่งล่วงหน้า Made to Order เพื่อที่คุณจะได้จัดสรรวัตถุดิบให้เพียงพอไม่เหลือทิ้งจนทุนหายกำไรหด แม้กำไรอาจจะไม่มากนัก หากมีลูกค้าประจำ ก็จะมีรายได้สม่ำเสมอทุกเดือน เน้นการส่งขาย ฝากร้านขาย และที่สำคัญคือประหยัดค่าทำเลในการเปิดหน้าร้านไปได้เยอะ ลองค้นหาตัวคุณเอง ว่าเป็นคนแบบไหน ชอบอะไร แล้วลองเริ่มต้นสร้างธุรกิจของตัวเองตอนนี้ เชื่อว่ายังไม่สายเกินไป >> 5 อาชีพยอดฮิต หากินผ่านโลกออนไลน์ << >> ทำธุรกิจอะไรดี?? << >> ตามดู!! ธุรกิจของเหล่าดารา <<
แสดงให้เห็นถึงกำลังการซื้อว่ามีเงินจ่ายค่าเช่าไหวหรือไม่? ซึ่งอย่างน้อยผู้เช่าควรมีรายได้มากกว่าค่าเช่าประมาณ 2-3 เท่า เช่น ค่าเช่าบ้าน 10, 000 ก็ควรจะมีรายรับประมาณ 20, 000 บาทขึ้นไปเพราะต้องหักค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก ซึ่งคุณเองก็อาจจะถามเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ทำงานประจำอย่างเดียวหรือเปล่า? มีรายได้จากทางอื่นอีกหรือไม่? มีหนี้สินอย่างอื่นอีกหรือไม่? เป็นต้น เพื่อประเมินเบื้องต้นว่าผู้เช่ารายนี้จะมีปัญหาในการจ่ายค่าเช่าหรือไม่ 5. พร้อมที่จะจ่ายค่ามัดจำและค่าเช่าล่วงหน้าหรือไม่? เป็นสิ่งสำคัญที่จะบอกให้รู้ถึงสถานะการเงินของผู้เช่าว่า ณ ตอนนี้มีเงินก้อนเพื่อจ่ายค่ามัดจำและค่าเช่าล่วงหน้าในเดือนแรกหรือไม่ โดยทั่วไปแล้วจะต้องจ่ายเป็นเงินก้อน 2-3 เท่าของค่าเช่ารายเดือน ซึ่งหากมีการผ่อนผันตั้งแต่เดือนแรกก็อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักว่าคงจะมีปัญหาตามมาในเดือนต่อ ๆ ไป 6. อยู่กันทั้งหมดกี่คน? คุณควรจำกัดจำนวนคนเอาไว้ไม่ให้เกิน 2 คนต่อ 1 ห้องนอน เช่น เป็นบ้านเดี่ยว 2 ห้องนอน แสดงว่าอยู่ได้สูงสุดไม่เกิน 4 คน เป็นต้น เพราะยิ่งคนอยู่เยอะเท่าไร บ้านคุณก็จะยิ่งโทรมและเสียหายมากขึ้นเท่านั้น 7. มีสัตว์เลี้ยงหรือไม่?