เจ้าพายุ 1 12 61
เปิดขวดเป็ปเดียวก็เหม็นหืนแล้ว น้ำมันมะกอกของอิตาลีที่ดีควรจะผลิตและบรรจุขวดช่วงเดือน 10-11-12 นอกเหนือเวลานี้จะเป็นน้ำมันที่ใช้ไม่ได้คุณภาพต่ำ อยากจะเล่าตั้งแต่การผลิตไปจนถึงอายุต้นไม้เหมือนกัน แต่เดี๋ยวคนจะเลิกอ่านเอา ถ้าไม่เปิดขวดเก็บไว้ได้ประมาณ 2 ปี คุณภาพยังเหมือนเดิม ไปจนถึงประมาณ 4 ปีที่คุณภาพลดลงมากๆแล้ว แต่ถ้าเปิดขวดแล้ว ควรจะทานให้หมดภายใน 2 เดือน ที่เมืองไทย Extra Vergin Olive Oil คุณภาพดีจะหาซื้อยากหน่อย เพราะของคุณภาพดี กำลังการผลิตน้อย แล้วเค้าก็ไม่ส่งออกกัน ร่วมถึงถ้ามาถึงเมืองไทยราคาคงแพงมากจนรับไม่ได้สำหรับน้ำมัน เพราะที่โน้น ขวด 500ml. -1L.
น้ำมันมะกอก | Tops online
02-233-3829 (เวลาทำการ 9AM - 6PM) 086-888-9172, 086-522-0595, 097-158-2731 (นอกเวลาทำการ) Our Office บริษัท ยูเนี่ยน. พี จำกัด (สำนักงานใหญ่) เลขที่ 92/39 อาคารสาธรธานี 2 ชั้น15 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพ 10500 บริการจัดส่งถึงที่ทั่วไทย
4 ช้อนโต๊ะ (50 มล. ) จะมีผลคล้ายกันกับ 10% ของปริมาณไอบูโพรเฟนในผู้ใหญ่ สอดคล้องกับการศึกษาวิจัยอื่น ๆ ที่พบว่า กรดไขมันโอเลอิกในน้ำมันมะกอก มีสรรพคุณต้านการอักเสบที่สำคัญที่ช่วยยับยั้งยีนและโปรตีนชนิดที่กระตุ้นการอักเสบของร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคอัลไซเมอร์ โรคข้ออักเสบ รวมไปถึงโรคอ้วน 5. ช่วยลดความเสี่ยงเส้นเลือดในสมองแตก ตีบ ตัน สำหรับประโยชน์ของน้ำมันมะกอกด้านนี้ก็ถูกศึกษาวิจัยกันอย่างกว้างขวาง อย่างการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ทดลองกับกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 841, 000 พบว่า น้ำมันมะกอกเป็นแหล่งของกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวชนิดเดียวที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคเส้นเลือดในสมองแตก ตีบ ตัน (Stroke) ได้ และอีกการทดลองที่มีผู้เข้าร่วม 140, 000 คน ก็พบว่าคนที่บริโภคน้ำมันมะกอกจะมีความเสี่ยงโรคสโตรกต่ำกว่ามาก เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่รับประทานน้ำมันมะกอกเลย 6. ช่วยต้านแบคทีเรีย น้ำมันมะกอกมีสารอาหารดี ๆ ที่ช่วยยับยั้งและกำจัดเชื้อแบคทีเรียก่อโรคได้ โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter Pylori) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ที่ทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะอาหาร หรือโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร โดยนักวิจัยแนะนำว่า การรับประทานน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้า เวอร์จิน วันละ 30 กรัม ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไป จะช่วยกำจัดความเสี่ยงการติดเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร ได้ประมาณ 10-40% 7.
ผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกัน! ความงามตามส่วนประกอบ สุขภาพสมองและความจำ checkoutarrow TH THB ใหม่ ดีลพิเศษ! สินค้าทดลอง สินค้าขายดี เข้าสู่ระบบ สวัสดี บัญชีผู้ใช้ ใหม่ สินค้าขายดีราคาต่ำมากกว่า 2000 รายการ! ช้อปเลย
2 กรัม - กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA 16:1) 0. 176 กรัม - กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA 18:1) 9. 98 กรัม - กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA 20:1) 0. 044 กรัม - กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนทั้งหมด 1. 47 กรัม - กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFA 18:2) 1. 37 กรัม - กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFA 18:3) 0. 107 กรัม น้ำมันมะกอก ประโยชน์ดีอย่างไรในด้านสุขภาพ มาดูกันว่า สรรพคุณของน้ำมันมะกอก ดีต่อสุขภาพยังไงบ้าง 1.
น้ำมันมะกอกแบบผสม (Pure Olive Oil) น้ำมันมะกอกที่เกิดจากการผสมน้ำมันบริสุทธิ์หรือน้ำมันบริสุทธิ์กับน้ำมันที่ผ่านการกลั่นแล้ว อุดมไปด้วยวิตามินอี เหมาะสำหรับปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนไม่นานมาก เช่น เมนูผัด เป็นต้น 5. น้ำมันมะกอก ชนิดสกัดมาจากกากมะกอก (Olive Pomace Oil) เป็นน้ำมันมะกอกที่มีคุณภาพไม่สูงนัก สกัดมาจากน้ำมันและกากมะกอกที่ตกค้างอยู่ ผสมกับน้ำมันบริสุทธิ์เล็กน้อยเพื่อปรับปรุงคุณภาพ จึงทำให้มีราคาถูก และเหมาะสำหรับการปรุงอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูงอย่างเมนูทอด คุณค่าทางโภชนาการของน้ำมันมะกอก กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ให้ข้อมูลโภชนาการของน้ำมันมะกอกชนิดที่ใช้ปรุงสลัด ในปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ หรือราว ๆ 14 กรัม ดังนี้ - พลังงาน 124 กิโลแคลอรี - ไขมันทั้งหมด 14 กรัม - แคลเซียม 0. 14 มิลลิกรัม - ธาตุเหล็ก 0. 078 มิลลิกรัม - โพแทสเซียม 0. 14 มิลลิกรัม - โซเดียม 0. 28 มิลลิกรัม - โคลีน 0. 042 มิลลิกรัม - วิตามินอี 2. 02 มิลลิกรัม - วิตามินเค 8. 43 ไมโครกรัม - กรดไขมันอิ่มตัวทั้งหมด 1. 93 กรัม - กรดไขมันชนิดอิ่มตัว (SFA 16:0) 1. 58 กรัม - กรดไขมันชนิดอิ่มตัว (SFA 18:0) 0. 273 กรัม - กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวทั้งหมด 10.
เบอร์ทอลลีน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น 500มล. | Tops online
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้า เวอร์จิน (Extra-Virgin Olive Oil) น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ มีสีเขียวเข้ม กลิ่นมะกอกชัด เพราะผลิตโดยวิธีสกัดเย็น เพื่อป้องกันไม่ให้วิตามินจากธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิสูง จึงสามารถรักษารสชาติและกลิ่นหอมตามธรรมชาติไว้ครบถ้วน มีความเป็นกรดต่ำ สามารถปรุงอาหารได้สด ๆ โดยไม่ต้องผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ เหมาะทำเป็นน้ำซอสหรือน้ำสลัดต่าง ๆ แต่ไม่ควรนำไปทอด ผัด หรือผ่านกรรมวิธีที่มีความร้อน เพราะมีจุดเกิดความร้อนต่ำ ไหม้ง่าย และอาจจะทำให้เสียคุณค่าทางโภชนาการไป 2. น้ำมันมะกอกเวอร์จิน (Virgin Olive Oil) น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์สกัดเย็นแต่ไม่ผ่านการกลั่น ให้กลิ่นหอมและมีรสชาติอ่อน ๆ ที่เป็นธรรมชาติมากกว่า มีความเป็นกรดสูง ทนต่อความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับการปรุงโดยใช้ความร้อนต่ำ เช่น ทำเป็นน้ำซอสหรือน้ำสลัด เป็นต้น 3. น้ำมันมะกอกผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil) น้ำมันมะกอกสกัดจากกรรมวิธีทางเคมี เพื่อให้ได้น้ำมันมะกอกที่มีความใส ดังนั้น กลิ่น รส และสี จากผลมะกอกจึงหลุดหายไปพอสมควร แต่ก็ยังคงหลงเหลือกรดไขมันและคุณค่าทางสารอาหารจากผลมะกอกอยู่บ้าง เหมาะจะนำมาปรุงอาหารประเภทที่ต้องใช้อุณหภูมิสูง ๆ อย่างเมนูทอด เพราะทนต่อความร้อนได้ดี และเป็นน้ำมันมะกอกที่ราคาไม่สูงมากนัก 4.