เจ้าพายุ 1 12 61
2 ประโยชน์ของโลหะวิทยาในภาคอุตสาหกรรม ตอนที่ 3: 1. 3 ผู้ที่เหมาะจะนำไปใช้ กับสิ่งที่พบในหนังสือเล่มนี้ (จบบทที่ 1) ตอนที่ 4: บทที่ 2 พื้นฐานเคมีในโลหะวิทยา 2. 1-2. 3 ตอนที่ 5: 2. 4 โมเลกุล, เกรน และผลึก, สารประกอบ ตอนที่ 6: 2. 7 ของผสม, สารละลาย และชนิดของสารละลาย ตอนที่ 7: สารละลายของแข็ง (จบบทที่ 2) ตอนที่ 8: ภาค 2 คุณสมบัติของโลหะ / บทที่ 3 ความแข็ง ตอนที่ 9: 9 3. 4 หน่วยของความแข็ง, 3. 5 วิธีการทดสอบความแข็ง, 3. 6 กรรมวิธีทดสอบความแข็งแบบบริเนล ตอนที่ 10: 10 3. 6. 1 ขั้นตอนการทดสอบความแข็งแบบบริเนล ตอนที่ 11: 11 การทดสอบความแข็งแบบวิคเกอร์ ตอนที่ 12: 12 3. 8 การทดสอบความแข็งแบบคนูบ ตอนที่ 13: 13 3. 9 วิธีการทดสอบความแข็งแบบร็อคเวล ตอนที่ 14: 14. การแบ่งสเกลร็อคเวล ตอนที่ 15: 15. 3. 10 วิธีการทดสอบความแข็งแบบร็อคเวลอย่างคร่าว ๆ ตอนที่ 16: 17 3. 11 วิธีการทดสอบความแข็งแบบชอร์ เชโรสโคป และแบบโซโนเดอร์ ตอนที่ 17: 3.
การกรอง การกรอง เป็นวิธีที่สามารถแยกได้ทั้งสารแขวนลอยด์ขนาดใหญ่ที่ตกตะกอนได้ สารแขวนลอยขนาดเล็กที่ตกตะกอนไม่ได้ และสารคอลลอยด์ เพียงเลือกใช้ขนาดกระดาษกรองที่เหมาะสมเท่านั้น เช่น การกรองแยกสารแขวนลอยด์ออกจากคอลลอยด์ ให้เลือกใช้กระดาษกรองที่มีขนาด 1 ไมครอน เมื่อกรองแล้ว สารคอลลอยด์ที่เล็กกว่า 1 ไมครอน จะผ่านกระดาษกรองได้ แต่สารแขวนลอยที่ใหญ่กว่าจะค้างบนแผ่นกระดาษกรอง การกรองในระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ และระบบบำบัดน้ำเสีย 1. การกรองด้วยแผ่นกรอง การกรองด้วยแผ่นกรอง ถือเป็นการกรองละเอียด นิยมใช้ในระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำสำหรับนำน้ำไปใช้ประโยชน์เพื่อการอุปโภคหรือบริโภค เช่น แผ่นกรองน้ำดื่ม ซึ่งส่วนมากมีขนาดรูกรองขนาดเล็ก มีประสิทธิภาพกำจัดได้ทั้งสารคอลลอยด์ และสารแขวนลอย 2. การกรองด้วยวัสดุ การกรองด้วยวัสดุ ถือเป็นการกรองหยาบ นิยมใช้ในระบบบำบัดน้ำเสียเป็นหลัก วัสดุที่ใช้กรอง ได้แก่ กรวด ทราย และถ่าน เป็นต้น วัสดุเหล่านี้มีประสิทธิภาพเพียงกรองแยกอนุภาคสารแขวนลอยขนาดใหญ่เท่านั้น อนุภาคสารแขวนลอยขนาดเล็ก และสารคอลลอยด์จะผ่านการกรองนี้ได้ หากต้องการกำจัดสารที่ผ่านการกรองหยาบ จะต้องเข้าสูกระบวนการอื่นต่อไป เช่น การกรองด้วยแผ่นกรอง การตกตะกอนด้วยสารเคมี เป็นต้น 3.
ถ้าพลังงานแลตทิชมากกว่าพลังงานไฮเดรชัน การละลายน้ำของสารประกอบไอออนิกนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทดูดความร้อน 2. ถ้าพลังงานแลตทิชน้อยกว่าพลังงานไฮเดรชัน การละลายน้ำของสารประกอบไอออนิกนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทคายความร้อน 3. ถ้าพลังงานแลตทิชเท่ากับพลังงานไฮเดรชัน การละลายน้ำของสารประกอบไอออนิกนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงพลังงาน 4.
สารไอออนิกใดละลายน้ำได้มากขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น การละลายของสารไอออนิกนั้น เป็นการละลายประเภทดูดความร้อน 2. สารไอออนิกใดละลายน้ำได้น้อยลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น การละลายของสารไอออนิกนั้น เป็นการละลายประเภทคายความร้อน สรุปกระบวนการละลายของตัวถูกละลายในตัวทำละลาย ประกอบด้วย - การทำลายแรงยึดเหนี่ยว solvent - solvent และ solute - solute ----> Hdiss มีค่าบวก (ดูดพลังงาน) - การเกิดแรงยึดเหนี่ยว solvent -solute ----> Hbind มีค่าลบ (คายพลังงาน) - ความร้อนของการละลาย Hsoln= Hdiss +Hbind
2 สารประกอบ (Compounds) สารประกอบ คือ สารที่เกิดจากการรวมตัวกันของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิด ขึ้นไปมาทำปฏิกิริยาเคมีกันด้วยสัดส่วนที่แน่นอน กลายเป็นสารชนิดใหม่ มีสมบัติแตกต่างไปจากธาตุที่เป็นองค์ประกอบเดิม ตัวอย่างของสารประกอบ เช่น เกลือแกง (NaCl) น้ำ(H 2 O) คาร์บอนไดออกไซด์(CO 2) แอมโมเนีย(NH 3) เป็นต้น แหล่งที่มา แฟรงค์ เดวิด วี. (2547). ชุดสำรวจโลกวิทยาศาสตร์องค์ประกอบพื้นฐานทางเคมี. กรุงเทพฯ: เพียร์สัน เอ็ดดูเคชัน อินโดไชน่า. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท. ). (2551). หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เล่ม 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ. ศ. 2551. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว. ศรีลักษณ์ พลวัฒนะ, และคณะ. หนังสือเรียนเสริมฯ แก๊ส ของแข็ง ของเหลว ม. 4-6 ช. 4 สำนักพิมพ์ แม็ค บจก. สนพ. หัวเรื่อง และคำสำคัญ จำแนก, สาร, สสาร รูปแบบการนำเสนอ แบ่งตามผลผลิต สสวท. สื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิทัล ลิขสิทธิ์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท. ) วันที่เสร็จ วันจันทร์, 20 สิงหาคม 2561 อนุสิษฐ์ เกื้อกูล ระดับชั้น ม. 1 ม.
Introduction to Organic Chemistry (4th ed. ed. ). Macmillan Publishing Company, New York. ISBN 0-02-418170-6. Unknown parameter |coauthors= ignored ( |author= suggested) ( help) CS1 maint: extra text ( link) วิกิตำรา มีคู่มือ ตำรา หรือวิธีการเกี่ยวกับ: Transwiki:Creating chemical solutions บทความเกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ นี้ยังเป็น โครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดย เพิ่มข้อมูล ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:วิทยาศาสตร์