เจ้าพายุ 1 12 61
เลือกตำแหน่งเก็บโชคง่ายเพื่อให้ลูกค้าเข้าร้าน ในภาษาฮวงจุ้ยเรียกว่าตำแหน่ง "กระแสชี่" โดยดูว่าถนนด้านหน้าร้านค้ามีความชันมากหรือน้อย ไม่ควรเลือกทำเลที่อยู่บนเนินหรือแอ่ง แต่ควรอยู่เลยจากเนินลงมาประมาณ 80-100 เมตร เป็นทางตรงมีความชันน้อย ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งเก็บโชคง่ายที่สุด ถ้าเราพิจารณาดูก็จะทราบเหตุผลที่แท้จริง ร้านค้าที่อยู่บนเนิน หรือแอ่งมักจะมองเห็นยาก ถนนด้านหน้าหากมีความชันมากไม่เหมาะแก่การจอดรถ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ลูกค้าไม่เข้าร้าน 3. เปิดประตูรับทรัพย์ทางเดียว ตามหลักของฮวงจุ้ยร้านค้าควรมีประตูทางเข้าออกควรมีขนาดใหญ่ และควรเป็นแบบบานเลื่อนหรือเปิดเข้าข้างใน ที่สำคัญคือควรมีประตูเข้าออกเพียงบานเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการดูแล และมองเห็นทุกคนที่เดินเข้าออกจากร้าน แต่ถ้าร้านจำเป็นต้องมีประตูหลายบาน ควรทำประตูทางออกให้เล็กกว่าประตูทางเข้า เพราะเชื่อว่าจะทำให้เงินทองไหลเข้ามากกว่าไหลออกจากร้าน 4.
ฮวงจุ้ยประตูบ้าน เพื่อความร่ำรวยอู้ฟู่ แค่ได้เห็นก็อยากรีบจัดประตูบ้านตามหลัก ฮวงจุ้ย ในทันทีทันใด ถ้าอย่างนั้นจะรอช้าทำไม มาดูหลักฮวงจุ้ยประตูบ้านเพื่อความร่ำรวยแบบไม่อั้นกันเลยดีกว่า ถ้าจะยึดตามหลักของฮวงจุ้ยก็ต้องบอกว่า ประตูทางเข้า บ้าน เป็นทางผ่านด่านแรกของทั้งคนทั้งพลังงานต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงโชคลาภ และโอกาสดี ๆ ในชีวิตด้วยนะคะ แต่การที่พลังงานดี ๆ เหล่านี้จะผ่านเข้ามาทางประตูบ้านของเราได้ ก็ต้องจัดสถานที่อำนวยความสะดวกให้เขาสักหน่อย เอ้า! ใครที่อยากร่ำรวยแบบจัดหนักจัดเต็ม บอกตรงนี้เลยว่า ต้องจัด ฮวงจุ้ยประตูบ้าน ตามนี้เลยนะจ๊ะ การันตีว่ารวย ๆ เฮง ๆ แน่นกระเป๋าแน่นอน 1. เข้า-ออกประตูหน้าสร้างความคึกคัก ในหลักของฮวงจุ้ยจะถือว่า ประตูหน้าบ้านเชื่อมโยงกับเรื่องการเงินของผู้อยู่อาศัย ดังนั้นเราก็ควรใช้ประตูนี้เป็นประจำ เพื่อกระตุ้นให้พลังงานไหลเวียนตรงส่วนนี้อย่างคึกคัก จะได้ช่วยกระตุ้นเรื่องการเงินให้ร่ำรวย ๆ นอกจากนี้ควรเลือกประตูบ้านแบบเปิดเข้า เพราเปรียบเสมือนการเชิญชวนให้แขกที่มาเยือนเข้าบ้าน รวมถึงยังเหมือนเป็นการต้อนรับพลังงานดี ๆ ให้เข้าสู่ภายใน แต่หากเป็นประตูบ้านแบบเปิดออก เหมือนการผลักพลังงานดี ๆ ออกไปนั่นเอง 2.
เทคนิคเบื้องต้นของการสร้าง รั้วบ้าน ก่อนจะสร้าง รั้วบ้าน นั้น ไม่ว่าเราจะชอบแบบไหน หรือมีแบบถือต้องการอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไร เราควรมีเทคนิค เพื่อวางแผนในการสร้างให้ออกมาดูดีมากยิ่งขึ้น อย่างแรกเราควรดูสไตล์ของบ้าน ที่เป็นสิ่งสำคัญของการเลือกแบบรั้วบ้าน คือ ควรเลือกให้เข้ากับสไตล์ของบ้าน และลักษณะของพื้นที่ ต่อไปบริเวณบ้าน เรื่องพื้นที่รอบบ้านก็เป็นอีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพราะถ้าหากเลือกรั้วบ้านโดยไม่คำนึงถึงระยะห่างของพื้นที่ และความสมดุลกับตัวบ้านแล้ว อาจทำให้อึดอัดหรือดูโล่งมากเกินไป โดยขนาดรั้วบ้านปกติจะสูงประมาณ 1.
1. บ้านที่สร้างใหม่ด้านข้างแม้เป็นบ้านชั้นเดียว ต้องมีความสูงอย่างน้อย 2 ใน 3 ของบ้านหลังแรก หรือสูงเท่ากันในกรณีบ้านสองชั้น 2. ส่วนหน้าบ้าน และส่วนหลังบ้านอย่างน้อยต้องให้มีความสูงเท่ากัน หรือส่วนหลังบ้านต้องสูงกว่าหน้าบ้าน 3. รอบบ้านทั้งสองหลังต้องมีทางเดินได้รอบทั้งสองหลัง ห้ามมีสิ่งขีดขวาง และกว้างอย่างน้อย 1 เมตร ห้ามปลูกต้นไม้ขวางทางเดิน 4. ห้ามมีประตู 3 บานตรงกัน แม้เหลื่อมกันเพียงนิดเดียวก็ไม่ได้ 5. ห้ามใช้กระจกที่ทึบแสง และทำให้ภายในบ้านมืดครึ้ม ทำให้ต้องเปิดไฟอ่านหนังสือ แม้เป็นเวลากลางวัน ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ดี 6. ส้วมทุกโถต้องหันไปหลังบ้าน หรือหันข้างบ้านเท่านั้น 7. ห้ามเชื่อมบ้านสองหลังเข้าด้วยกัน แม้แต่ทางเดินที่อยู่ใกล้กัน ก็ให้เว้นไว้อย่างน้อย 1 คืบ 8. บันไดเข้าบ้านให้หันหน้าไปทางที่จอดรถ 9. น้ำตกอยู่ผิดตำแหน่งไม่ควรมี ให้ใช้วิธีตั้งอ่างบัวที่มุมรั้วใกล้ Terrace แทน กับมุมบันไดที่จะขึ้น Terrace แทน ในตำแหน่งขวามือเวลาหันหน้าเข้าบันได 10. ภายในบ้าน ต้องไม่มีห้องมืด อับแสง หรืออับลม และไม่มีห้องอับชื้น 11. กำแพงด้านตะวันตก ต้องกันความร้อนได้ดี ควรให้หนาเข้าไว้ หรือใช้วัสดุกันความร้อน เพื่อป้องกัน ความร้อนที่เกิดขึ้นจากแสงอาทิตย์ทางด้านทิศตะวันตก 12.
บำรุงดูแลประตูให้สวยใหม่อยู่เสมอ เนื่องจากเป็นต้นทางสู่ความร่ำรวยของบ้านเรา ประตูบ้านรวมทั้งทางเดินเข้าก็ต้องสะอาดเรียบร้อย และดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ เพื่อสื่อถึงความสมบูรณ์พูนสุข ในเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็ควรต้องบำรุงดูแล และรักษาความสะอาดของประตูและทางเข้าด้วยนะคะ โดยเฉพาะหากมีรอยถลอก หรือสีลอกตรงประตู กรณีนี้ต้องรีบซ่อมแซมด่วนเลยจ้า 3. ประดับด้วยกระถางต้นไม้ เมื่อรวยแล้วก็ต้องอยากจะรวยอย่างยั่งยืน ฉะนั้นให้หากระถางต้นไม้ หรือดอกไม้สวย ๆ มาวางประดับด้านข้างประตูทั้งสองข้างได้เลยค่ะ หรือใครอยากจัดสวนเล็ก ๆ ไว้หน้าประตูบ้านด้วยก็จะยิ่งดูสดชื่น แถมยังเสริมพลังงานชี่ให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย 4. ประตูสีเขียวเริดสุด สีเขียวเป็นสีมงคลในเรื่องการเงิน ซึ่งถ้าคุณสามารถทาประตูบ้านเป็นสีเขียวได้ ก็จะยิ่งดีกับโชคด้านการเงิน แต่หากสีตัวบ้านเดิมที่มีอยู่เข้ากันไม่ได้กับสีเขียวจริง ๆ สามารถเลือกทาประตูด้วยสีอื่นที่เข้ากันดีกับสีตัวบ้านก็ได้ แต่หาของตกแต่งที่มีสีเขียวมาเป็นกิมมิคเก๋ ๆ ด้วยก็ยิ่งดี 5. ปกป้องอย่าให้มีแม้รอยขีดข่วน สิ่งของที่ขาดแหว่งหรือชำรุดย่อมเป็นลางที่ไม่ดี และของบางอย่างอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงด้วยก็ได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องระมัดระวังไม่ให้ประตูบ้านเกิดริ้วรอยใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะของแหลมคม หรือแม้แต่โมบายกระดิ่งที่เป็นโลหะ ก็ควรรักษาระยะห่างจากประตู เพื่อป้องกันการกระแทก หรือการเสียดสีด้วยนะจ๊ะ 6.
ห้ามปลูกต้นไม้ยืนต้นสูงใหญ่ใกล้ชิดตัวบ้าน โดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้าน และตรงกับประตูห้ามเด็ดขาดู ให้ปลูกได้เฉพาะไม้พุ่ม ความสูงไม่เกินเอวของเจ้าของบ้าน 13. บริเวณด้านใต้จะเป็นทิศที่ลมเข้ามา ตัวบ้านหลังใหม่มีห้องน้ำขวางกัน ดังนั้นให้แก้ด้วยการเปิดหน้าต่างรับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่ห้องนอน นอกจากเป็นบานเลื่อนก็เปิดจากซ้ายไปขวา ส่วนห้องทำงานหากเป็นบานแบบเปิดปิดสามารถเปิดไปทางหน้าบ้านได้ สำหรับบานเลื่อนเปิดได้ตามความสวยงาม 14. หากเป็นบ้านสองชั้นบันไดต้องทอดจากหลังบ้านขึ้นไปทางหน้าบ้าน ลักษณะเดินขึ้นทางหลังบ้านเดินขึ้นไปทางหน้าบ้าน และควรสร้างฝากับประตูป้องกันไม่ให้คนมองเห็นบันไดจากด้านนอก และอย่าให้มืด หรืออับลม ต้องมีช่องลมระบายกับช่องแสงด้วย และห้ามเป็นบันไดเปลือย อยู่นอกตัวอาคารแบบบันไดหนีไฟ หากจะเป็นบันไดเปลือย อย่างน้อยต้องมีเครื่องขีดขวางเช่น เหล็กดัดแนวยาวจากบนลงล่าง กันคนปีนขึ้น 15. การสร้างบ้านทั้งภายในและภายนอก ควรให้มีเหลี่ยมมุมน้อยที่สุด โดยเฉพาะที่นอน กับโต๊ะนั่งทำงาน ห้ามมิให้มีเหลี่ยมมุม มุมเสาชี้มาเป็นอันขาด หากมีคานพาดผ่านต้องทำฝ้าเพดานปิดให้เรียบ และมีระดับเท่ากันทั้งหลัง 16. พื้นบ้านต้องให้มีระดับเท่ากันตลอด ห้ามเล่นระดับ 17.
หน้าบ้านมีต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม สดใส มีดอกไม้สวยงาม พลังของต้นไม้ที่สดชื่นจะช่วยดึงดูดพลังมงคล โชคลาภ ความชุ่มชื่นใจและความสำเร็จมาสู่ผู้อยู่อาศัย 3. หน้าบ้านที่โล่งไม่รก จะส่งผลให้พลังมงคลเคลื่อนตัวเข้าสู่อาคารบ้านเรือนได้ราบรื่นไม่สะดุด โดยเฉพาะบริวารประตูทางเข้าบ้านไม่ควรมีข้าวของรกขวางทาง 4. หน้าบ้านที่มีอ่างน้ำ น้าล้น น้ำพุ จะช่วยดึงดูดเงินทองเข้ามาภายในบ้าน แต่ในเบื้องต้นไม่ควรจัดวางอยู่ทางฝั่งขวามือ ดีที่สุดควรวางอยู่ฝั่งซ้ายมือ (เมื่อยืนอยู่ภายในบ้านแล้วมองออกไปหน้าบ้าน) แต่ควรเลี่ยงการจัดวางน้ำทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะศาสตร์ฮวงจุ้ยหน้าบ้านบอกว่า จะทำให้ชีวิตครอบครัวประสบปัญหาความวุ่นวายได้ง่าย 5. ประตูรั้วที่ดีไม่ควรโล่งเกินไป ถ้าชอบความโล่งอย่างน้อยประตูควรจะทึบจากล่างขึ้นข้างบน 50-70% จะช่วยกักเก็บพลังมงคลให้อยู่นานขึ้น 6. พื้นหน้าบ้านที่ดีไม่ควรต่ำกว่าถนน เพราะพลังอัปมงคลจะไหลเข้าสู่บ้านเรือนที่อยู่อาศัยได้ง่าย ชีวิตจะพบกับอุปสรรคในหลายๆด้านได้ง่าย ทั้ง สุขภาพ โชคลาภ การงาน การเงิน 7. ประตูตัวบ้านที่ดี(ประตูที่จะเข้าบ้าน) ควรทึบเพราะจะช่วยกักเก็บพลังมงคลและช่วยปกปิดความเป็นส่วนตัวของคนในบ้าน ยกเว้นประตูสำนักงานสามารถใช้ประตูกระจกใสได้(ตามความเหมาะสม) 8.
การเปิดร้านให้ประสบความสำเร็จนอกเหนือจาก "ทำเลที่ดี" สิ่งที่หลายคนยึดเหนี่ยวและนำมาใช้คือ "ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย" คำว่าฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ความรู้จากจีนอายุยาวนานกว่า 4, 000 ปี ว่าด้วยเรื่องชัยภูมิที่ตั้ง ทิศทางลม กระแสพลังงานเชิงบวก เชื่อกันว่าหากจัดร้าน จัดบ้านถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยจะนำมาซึ่งโชคลาภ มั่นคง มั่งคง และร่ำรวย ในฐานะที่เป็นเว็บไซต์ส่งเสริมให้คนได้มีโอกาสทำธุรกิจของตัวเอง เราพยายามนำเสนอเนื้อหาในหลากหลายแง่มุมที่น่าสนใจ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือเพื่อให้คนทำธุรกิจประสบความสำเร็จ ลองมาดูศาสตร์ของฮวงจุ้ยในการจัดร้านว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง 1. หันร้านให้ถูกทิศ จะได้เปิดรับโชคลาภ ทิศมงคลตามหลักของฮวงจุ้ยคือ ทิศใต้, ทิศตะวันตก และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทิศเหล่านี้มีการถ่ายเทอากาศที่ดี มีแสงสว่างมากพอในตอนกลางวัน หรือถ้าเรียกตามหลักของฮวงจุ้ยจะพูดว่าเป็นการหันหน้ารับ "กระแสพลังงานชี่" หรือถ้าเป็นการเปิดร้านในอาคารพาณิชย์อาคารที่เลือกควรจะหันหน้าออกถนนในทางกายภาพอาคารที่หันข้างให้ถนนนั้นมักจะมองไม่เห็นด้านหน้าของอาคาร และไม่เชื้อเชิญลูกค้า ต่อให้ตกแต่งสวยงามมากแค่ไหนคนก็จะมองไม่เห็นและไม่สนใจ 2.
ท่อน้ำให้เข้าบ้านทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หรือเข้าทางด้านซ้ายมือของตัวบ้านเมื่อหันหน้าออกจากตัวบ้าน 18. ท่อระบายน้ำให้อยู่ด้านหน้าบ้าน แต่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับท่อน้ำเข้า ระบายน้ำทิ้งไปทางหน้าบ้าน หรือออกทางด้านขวามือของตัวบ้านเมื่อหันหน้าออกจากตัวบ้าน 19. ห้ามมีเสากลางบ้าน หากมีต้องติดกระจกรอบทั้งสี่ด้าน ความสูงอย่างน้อยต้องเท่ากับความสูงของขอบหน้าต่างด้านบน ส่วนด้านล่างกระจกเท่ากับขอบหน้าต่างด้านล่าง หรือติดตลอดความสูงของเสา 20. เมื่อเข้ามาอยู่อย่ามี ตู้ โต๊ะ เตียง ข้าวของเครื่องใช้มากเกินไป พยายามให้บ้านโล่งๆ ไว้ ความรู้สึกคล้ายกับโบสถ์ หรือวิหาร และบ้านห้ามรก มีของเกะกะ มองเข้ามาจากภายนอก ต้องให้คล้ายๆ มีข้าวของเครื่องใช้น้อย พยายามจัดกลางบ้านให้โล่ง ใช้เฟอร์นิเจอร์เตี้ยๆ วางกลางบ้าน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่สูงๆ ไว้ตามขอบๆ ห้อง พูดง่ายๆ จัดลักษณะเหมือนอ่างน้ำ เป็น slope ลงมาที่กลางบ้าน 21. ประตูห้องน้ำห้ามมิให้ไปตรงกับเตียงนอน ลักษณะพุ่งชนเตียงนอน 22. ประตูจากห้องทำงาน ห้ามไม่ให้พุ่งชนกับเตียงเหมือนกัน แม้ประตูอื่นๆ ก็ควรเว้นไม่ให้พุ่งชน 23. ประตูห้องทำงานถ้าเป็นบ้านชั้นเดียวให้เปิดจาก Terrace ตรงกลางของบ้าน ถ้าเป็นสองชั้นประตูอยู่ด้านล่างให้เปิดตำแหน่งเดียวกัน 24.
ประตูหน้ากับประตูหลังห้ามตรงกันเด็ดขาด ประตูบ้านด้านหน้าและด้านหลังตรงกันหมายความว่า พลังงานที่ผ่านเข้ามาทางประตูหน้า จะไหลผ่านออกทางหลังบ้านได้ง่าย ๆ ซึ่งก็ส่งผลกระทบกับด้านการเงิน ทำให้เงินคุณหายไปบ่อย ๆ หรือเก็บเงินไม่อยู่นั่นเอง นอกจากนี้ด้านหลังบ้านก็ไม่ควรมีกระจก หรือประตูหลังบ้านเป็นประตูกระจกก็ไม่ดี เพราะจะสะท้อนพลังงานให้ตีกลับไปทางด้านหลัง เกิดปัญหาด้านการเงินอีกเช่นกัน แต่ถ้าแก้ลำบาก แนะนำให้แก้เคล็ดด้วยการขวางระหว่างประตูด้วยโต๊ะกลมขนาดใหญ่ หรือหาม่านบังตาที่แข็งแรงมากั้นไว้เลยก็ได้ค่ะ 7. เปลี่ยนลุคประตู หากว่าประตูบ้านของคุณเริ่มเก่าและหมอง คงจะดีกว่าถ้าได้ทาสีประตูใหม่ หรือใครอยากเปลี่ยนประตูบานใหม่ไปเลยก็ดีไม่น้อยนะคะ เพราะการตกแต่งให้ดูสดชื่นแจ่มใสขึ้น จะช่วยกระตุ้นให้พลังงานไหลเวียนอย่างสะดวก ส่งเสริมความร่ำรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป พร้อมกันนั้นก็ควรหาพรมเช็ดเท้าสีดำมาวางไว้ที่ประตูหน้าด้วย จะได้ช่วยเสริมความมงคลให้บ้านเราได้อีกทาง 8.